ไอเดีย POP ตกแต่งชั้นวางสินค้าให้ยอดขายปัง!
วันนี้เรามีเทคนิคการตกแต่งชั้นวางสินค้าให้ปังจนคู่แข่งร้องไห้มาแนะนำกันค่ะ
1. ซื้อพื้นที่หน้าทางเดิน
หากเราเป็นทีมการตลาด ก่อนจะนำสินค้าไปวางขายที่ไหน แนะนำให้ไปสำรวจตลาดกันก่อนนะคะ หาทำเลที่วางแล้วสินค้าเราเด่น มุมที่คนต้องเดินผ่าน เช่น ทางเข้า, ทางเดินไปแคชเชียร์ วัดขนาดพื้นที่มาเพื่อเตรียมงานออกแบบ
2. ออกแบบ Shelf Display ให้ปัง
เมื่อเราได้พื้นที่ทำเลทองมาแล้ว ส่งขนาดพื้นที่ให้กราฟฟิคแล้วก็มาถึงขั้นตอนการออกแบบกันค่ะ
Stand Display : คือชั้นวางสินค้าที่เราทำขึ้นมาใหม่ทั้งตัว มี 2 แบบค่ะ
- แบบซื้อชั้นสำเร็จรูปมาทำงาน POP ติดบน shelf
- แบบทำขึ้นมาใหม่ทั้งตัว
วัสดุที่แนะนำมีดังนี้นะคะ
- PP Board เหมาะกับงาน Indoor & Outdoor ค่ะ เพราะงานพิมพ์ Outdoor จะกันแดดและทนน้ำได้ เดินชมล้มก็ไม่พัง ฉีกไม่ขาด ใช้งานได้นานเป็นปี *แต่ไม่สามารถรีไซเคิลได้
- Corrugate (กระดาษลูกฟูก) เหมาะกับงาน Indoor เท่านั้นค่ะ เพราะโดนน้ำจะเปื่อยและขาดได้ หากไม่ชื่นและไม่โดนน้ำใช้งานได้นาน 6 เดือน – 1 ปีเช่นกันค่ะ กระดาษลูกฟูกนิยมมากในปัจจุบันนะคะ เพราะเป็นวัสดุที่ใช้งานเสร็จแล้วสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ทิ้งก็ไม่กลายเป็นขยะพิษ ราคาในการพิมพ์ก็พอๆกับ PP Board เลยค่ะ
- Acrylic (อะครีลิค) ชั้นวางโชว์สินค้าแบบนี้ราคาแพงที่สุดค่ะ แต่ข้อดีคือใช้งานได้นานที่สุด 1-3 ปี หากไม่ทำตกแตกนะคะ (เพราะอะครีลิคแตกหักได้เมื่อกระแทกแรงๆ) ทั้งนี้การเลือกใช้วัสดุในการทำงานตกแต่งชั้นวางสินค้านั้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ตั้งงานและระยะเวลาในการใช้งานเป็นหลักนะคะ
นอกจากวัสดุในการทำแล้ว ทีนี้มาดูเทคนิคการตกแต่งให้สวยปังกันค่ะ
เทคนิคการตกแต่งตามภาพตัวอย่างได้แก่
- Head : คือการตกแต่งที่ด้านบนของชั้นวางให้อยู่ในระดับสายตาค่ะ
- Shelf : ก็คือตัวชั้นวาง เลือกวัสดุได้ตามด้านบนเลยค่ะ
- Side : 1 ชั้นวางจะมี 2 ข้าง ซ้าย+ขวา เราแต่งแบบมีไดคัทจะสวยกว่าแบบ 4 เหลี่ยมธรรมดาๆมาแปะนะคะ
- Floor : คือการพิมพ์ Floor sticker มาติดที่พื้นด้านล่างเพิ่มความสวยงามให้ชั้นวาง
- เทคนิคอื่น ๆ คือ การทำ Pop up เช่นตัวเด้ง หรือไดคัทต่างๆให้งานเราดูเป็น 3 มิติ ไม่แบน
เทคนิคทั้งหมดนี้เกิดจากงานพิมพ์ล้วน ๆ ค่ะ หากลูกค้าสนใจทักมานะคะ เรามีทีม R&D ดูแลงานให้ค่ะ
ADD LINE : @smilesiamprinting
Comments