ทำความรู้จัก “กระดาษ” สำหรับ “กล่องใส่ขนม”
เคยสงสัยกันมั้ยคะ ? ว่ากล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษต่าง ๆ นั้น ที่ถูกผลิตออกมา ใช้วัสดุ หรือกระดาษแบบไหนในการผลิตหรือพิมพ์ ขอบอกเลยค่ะว่า จริง ๆ มีหลากหลายรูปแบบมาก ๆ แต่ที่นิยมใช้และเห็นได้บ่อยคงจะเป็น กระดาษอาร์ทการ์ด กระดาษลูกฟูก กระดาษคราฟท์ กระดาษจั๋วปัง และกระดาษฟู้ดเกรด (Food Grade) เป็นต้น
บรรจุภัณฑ์กระดาษแต่ละชนิด ก็จะมีฟังค์ชั่นการใช้งานแตกต่างกันไป ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสมนะคะ วันนี้เราเลยหยิบยก บรรจุภัณฑ์กระดาษหรือ “กล่องกระดาษสำหรับใส่ขนม” มาแนะนำและหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน ว่าเค้านิยมใช้กระดาษชนิดใดในการผลิต
2 รูปแบบกล่องกระดาษใส่ขนม ที่นิยมใช้
1. กล่องกระดาษใส่ขนมแบบพับได้
บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ มาในรูปแบบกล่องกระดาษที่สามารถขึ้นรูปทรงเป็นกล่อง และพับเก็บเป็นแผ่นราบได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ มีทั้งแบบใช้กาวและไม่ใช้กาวในการขึ้นรูป มีทั้งแบบมีฝาปิด แบบถาด หรือแบบห่อ ขึ้นอยู่กับการออกแบบบรรจุภัณฑ์นั้น ๆ
กล่องกระดาษใส่ขนมแบบพับได้เหมาะกับสินค้าประเภทใดบ้าง ?
- กล่องขนมอบกรอบ/อบแห้ง
- กล่องขนมเบเกอรี่
- กล่องขนมเค้ก
- กล่องขนมไหว้พระจันทร์
- กล่องพิซซ่า
- กล่อง Snack เป็นต้น
2. กล่องกระดาษใส่ขนมแบบคงรูป
บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้จะอยู่ในรูปแบบกล่องที่ขึ้นรูปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการขึ้นรูป เมื่อจะใช้งาน แต่อาจใช้พื้นที่เยอะในการจัดเก็บ และในส่วนของการผลิตก็จะใช้เวลามากกว่าเนื่องจากมีขั้นตอนในการขึ้นรูปเพิ่มเข้ามา
กล่องกระดาษใส่ขนมแบบคงรูปเหมาะกับสินค้าประเภทใดบ้าง ?
- กล่องขนมพรีเมียม
- กล่องขนมที่มีการดีไซน์รูปทรงพิเศษ เป็นต้น
กระดาษชนิดใดบ้าง ? นิยมนำมาทำกล่องใส่ขนม แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
1. กระดาษลูกฟูก
คือกระดาษที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ 2 แผ่นประกบกันโดยมีลอนกระดาษอยู่ตรงกัน ซึ่งกระดาษลูกฟูก มีหลายรูปแบบโดยจำแนกจากกระดาษที่ใช้ในประกบและลอนกระดาษ หากนำกระดาษลูกฟูกมาผลิตเป็นกล่องกระดาษสำหรับใส่ขนม จะต้องมีแผ่นรองที่สามารถสัมผัสอาหารได้ใส่ลงไปก่อน เนื่องจากกระดาษลูกฟูกปกติจะไม่ใช่กระดาษฟู้ดเกรดทำให้ไม่สามารถสัมผัสอาหารโดยตรงได้ กระดาษลูกฟูกนิยมใช้ผลิตเป็นกล่องพิซซ่า เป็นต้น
2. กระดาษจั๋วปัง
เป็นกระดาษที่มีความแข็งแรงสูง และมีราคาสูงเช่นกัน จึงเหมาะสำหรับนำมาบรรจุขนมหรือสินค้าระดับพรีเมียม เพราะช่วยให้สินค้านั้นดูมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น กระดาษจั๋วปังจึงนิยมนำมาผลิตเป็นกล่องใส่ขนมในรูปแบบของขวัญอย่างกล่อง ขนมไหว้พระจันทร์เป็นต้น
3. กระดาษบาง โดยแบ่งออกดังนี้
– กระดาษกล่องแป้งหลังเทา คือกระดาษที่เคลือบด้วยแป้งด้านนึง และอีกด้านจะมีสีเทา แกรมที่นิยมใช้อยู่ที่ 310-500 gsm สามารถเลือกนำมาผลิตได้โดยให้เหมาะสมกับสินค้าที่จะบรรจุลงไป
– กระดาษกล่องแป้งหลังขาว กระดาษชนิดนี้จะคล้าย ๆ กับกระดาษกล่องแป้งหลังเทา ที่กล่าวมาข้างต้น แต่ด้านที่เป็นสีเทาจะถูกย้อมด้วยสีขาว ทำให้ดูสะอาดกว่าแบบหลังเทา
– กระดาษกล่องอาร์ทการ์ด นิยมใช้เป็นอย่างมากสามารถพิมพ์งานได้สีสด คมชัด และเป็นกระดาษฟู้ดเกรดที่สัมผัสกับอาหารได้โดยตรง แต่ราคาก็จะแพงกว่ากระดาษกล่องแป้ง โดยนิยมใช้กันที่ 270-400 gsm
– กระดาษคราฟท์ คือกระดาษ Recycle เนื้อกระดาษมีสีน้ำตาลโดยมีชื่อเรียกแต่ละรูปแบบต่างกันคือ KA KI และ KP โดยที่นิยมนำมาผลิตเป็นกล่องกระดาษใส่ขนมคือ KP ซึ่งมีความหนากว่าแบบอื่น ๆ และเป็นกระดาษฟู้ดเกรด กระดาษชนิดนี้จะนิยมพิมพ์แบบสีเดียว
– กระดาษฟอยล์ คือกระดาษที่ด้านนึงเป็นสีขาว ส่วนอีกด้านจะมีการเคลือบฟอยล์ลงไป อาจจะเป็นสีเงินหรือสีทอง มีความหนาสุดแค่ 325 gsm เท่านั้น
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของกล่องกระดาษใส่ขนม
ดังนั้นก่อนจะเลือกใช้กระดาษในการผลิตกล่องกระดาษใส่ขนมควรคำนึงถึงวัสดุที่นำมาผลิต
ว่าสามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรงหรือไม่ ? ต้นทุนการผลิตต่าง ๆ และรูปแบบ ยังไงก็อย่าลืมเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับสินค้าของคุณนะคะ
Comments